การสลายไขมันปัจจุบันมีกี่วิธี อะไรบ้าง
สำหรับผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักเกินนะคะ นอกเหนือจากการออกกำลังกายและควบคุมอาหารแล้ว ปัจจุบันเรายังมีทางเลือกทางการแพทย์เพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างที่ทุกคนเรียกกันง่ายๆว่าการสลายไขมันนั้นเองค่ะ การสลายไขมันนั้นสามารถทำได้หลายส่วนเลย ไม่ว่าจะเป็น ต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง นะคะ และเทคโนโลยีการสลายไขมันที่เห็นผลชัดเจนในปัจจุบัน มี 5 วิธีหลักๆด้วยกัน คือ การผ่าตัดดูดไขมัน (Liposuction) , VASER, MESO SLIM หรือ Mesotherapy, CARBOXY และ วิธีอื่น เช่น การนวดหรือ การดูดด้วยสูญญากาศ ค่ะ แต่หลาย ๆท่านก็ยังลังเลอยู่นะคะ ว่าจะเลือกสลายไขมันด้วยวิธีไหนดี ที่จะเห็นผล และปลอดภัยสุด วันนี้ Surgery Care จึงหาข้อมูลมาฝากเพื่อนๆกัน ไปดูกันเลยค่า
1. การผ่าตัดดูดไขมัน (Liposuction)
วิธีนี้เป็นเป็นวิธีที่มีมาหลายสิบปีแล้วค่ะ โดยการผ่าตัดใส่ท่อที่มีแรงดูดสูญญากาศเข้าไปดูดไขมัน ซึ่งก่อนจะดูดไขมัน แพทย์จะต้องออกแรงบีบ กระแทกอย่างแรงเพื่อให้ไขมันแตกออก จึงจะสามารถดูด ออกมาจากร่างกายได้ค่ะ ในอดีตถือเป็นการรักษาที่เห็นผลชัดเจนที่สุด แต่ก็อันตรายที่สุดเช่นกัน เนื่องจากขั้นตอนการรักษาที่รุนแรงจะทำความบาดเจ็บกับเส้นเลือด เส้นประสาททำให้คนไข้มีอาการปวด เขียว ช้ำ ระบมหลังการผ่าตัดหรือเสียชีวิตจากอาการแทรกซ้อนได้ในบางราย ปัจจุบันการดูดไขมันแบบเดิมนี้จึงได้รับความนิยมลดลงเป็นอย่างมากโดยแพทย์ส่วนใหญ่หันไปใช้วิธีอื่นที่ ดีกว่าแทน เช่น VASER ค่ะ
2. VASER การสลายไขมันด้วยคลื่นความถี่สูง อัลตร้าโซนิค VASER คือ การเจาะรูขนาดเล็ก ประมาณ 1cm เพื่อสอด Probe Ultrasonic ซึ่่งมีคุณสมบัติในการ สลายเฉพาะไขมัน แต่ไม่ทำอันตรายกับอวัยวะข้างเคียง สามารถสลายไขมันได้ง่ายและมากกว่าการ ดูดไขมันแบบเดิม อีกทั้งยังปลอดภัยคนไข้ไม่ต้องดมยาสลบ หลังทำไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับบ้าน ได้เลย จึงกล่าวได้ว่า VASER กำลังจะเข้ามาแทนการดูดไขมันแบบเก่าเกือบ 100% เนื่องจาก VASER สลายไขมันได้มากกว่า เจ็บน้อยกว่าและปลอดภัยกว่านั่นเองค่ะ
3. MESO SLIM หรือ Mesotherapy MESO SLIM
คือ การฉีดสารที่มีคุณสมบัติในการเปลี่ยนไขมันให้สลายเผาผลาญกลายเป็น พลังงาน โดยใช้เข็มที่มีขนาดเท่าเส้นผม แม้จะได้ผลน้อยกว่า VASER แต่ข้อดีคือไม่ต้องผ่าตัด และ รู้สึกเจ็บน้อยมาก เห็นผลใน 1-3ครั้ง และเห็นผลชัดเจน 5-10ครั้ง โดยฉีดห่างกันสัปดาห์ละครั้งค่ะ
4. CARBOXY CARBOXY
คือ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งมีคุณสมบัติเพิ่มการเผาผลาญพลังงานจาก เซลล์ไขมัน และทำให้ไขมันถูกทำลายแตกตัวได้ง่ายขึ้น ข้อดีคือ เห็นผลและราคาไม่แพง แต่ข้อเสียคือ เจ็บพอสมควร เห็นผลช้ากว่า น้อยกว่า VASER และ MESO โดยต้องทำสัปดาห์ละครั้ง เริ่มเห็นผลใน 3-5ครั้ง เห็นผลชัดเจนเมื่อทำต่อเนื่อง 10-20ครั้ง
5. วิธีอื่น เช่น การนวดหรือตบ การดูดด้วยสูญญากาศ(vaccuum)
เป็นการรักษาที่มีมานานก่อน Carboxy ซึ่งเห็นผลในบางคน ในบางคนอาจไม่เห็นผล โดยผลที่ได้เมื่อเปรียบเทียบกับ Carboxy จะได้ผลน้อยกว่า แต่ข้อดีคือ ไม่เจ็บ สะดวก สามารถทำ ในสถานเสริมความงามโดยไม่จำเป็นต้องทำในคลินิกหรือรพ.ที่มีแพทย์ควบคุมค่ะ
Cr : นพ.สุทธิศักดิ์ เรืองปราชญ์ AMERICAN BOARD of AESTHETIC MEDICINE http://www.vrclinic.com/