ศัลยกรรมปาก
สวัสดีค่ะ วันนี้ Surgerycare ขอนำเสนอการศัลยกรรมปาก ที่ปัจจุบันนี้นิยมกันอย่างมาก บางท่านก็อยากจะมีริมฝีปากอวบอิ่ม บางท่านก็อยากจะมีริมฝีปากที่เรียวบาง ซึ่งก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบุคคล แม้แต่ดาราหลายๆท่านก็นิยมไปทำปากเช่นกัน งั้นเรามาดูกันเลยค่ะว่า ผู้ที่เหมาะจะศัลยกรรมปากเป็นใครกันบ้าง และขั้นตอนการทำเป็นอย่างไรค่ะ
คุณเหมาะแล้วหรือยังกับการศัลยกรรมปากบาง ?
เพื่อที่จะทราบได้ว่าปัญหาริมฝีปากหนาของคุณเหมาะสมที่จะแก้ไขด้วยการศัลยกรรมทำปากบางหรือไม่ ทางที่ดีที่สุด คือการเข้าปรึกษากับศัลยแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมตัดแต่งริมฝีปากโดยเฉพาะ เพราะลักษณะริมฝีปากหนาในผู้ป่วยบางราย ไม่ได้เกิดจากการที่มีเนื้อริมฝีปากเยอะ แต่มาจากการความผิดปกติของโครงสร้างอื่น เช่น โครงกระดูกหน้ายื่น ฟันหน้ายื่น คางสั้น หรือกระดูกขากรรไกรไม่เจริญเติบโตตามสมควร ซึ่งทุกประการล้วนส่งผลกระทบทำให้ริมฝีปากถูกดันออกมา จึงทำให้ดูหนา ทางแก้ที่ดีจึงต้องแก้ไขที่ต้นเหตุ มากกว่าการตัดแต่งเนื้อที่ริมฝีปากออก
ส่วนผู้ที่แพทย์วินิจฉัยแล้วว่า ริมฝีปากหนาเพราะว่ามีเนื้อที่เรียวปากมากเกินไป จึงสามารถปรึกษาเพื่อทำการตัดแต่งให้บางลงได้ จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนของการพูดคุยตกลงเกี่ยวกับรูปแบบเรียวปากที่คุณต้องการ และความเป็นไปได้ในกระบวนการศัลยกรรม และหาแบบรูปปากที่เหมาะสมกับใบหน้าของคุณมากที่สุด โดยการศัลยกรรมตัดแต่งริมฝีปากในผู้ป่วยบางราย อาจไม่สามารถทำให้บางลงได้มากเท่ากับที่ผู้ป่วยต้องการ เพราะอาจเกิดปัญหาปิดปากได้ไม่สนิท ทำให้มองเห็นฟันตลอดเวลา ตามมาภายหลัง
ขั้นตอนการผ่าตัดริมฝีปาก ขั้นตอนการผ่าตัดริมฝีปากทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณ 45 นาที – 1 ชั่วโมง
1.แพทย์จะเริ่มด้วยการฉีดยาชาในบริเวณรอบริมฝีปาก และยานอนหลับชนิดอ่อนเพื่อลดอาการเจ็บ
2.แพทย์ระเริ่มตัดริมฝีปากที่เป็นส่วนเกินไปตามแนวของริมฝีปากทำให้ปากบาง
3.เย็บด้วยไหมละลายตามแนวที่ตัดไปโดยรอยไหมจะถูกซ่อนไว้ด้านในเหมือนแผลหายไหมก็ะหายไปเนื่องจากเป็นไหมละลาย
การเติมริมฝีปาก ในการเติมริมฝีปากนั้นปัจจุบันนั้นมีทั้งวิธีการเติมด้วยสารเติมเต็มหรือการใช้ไขมันของตัวเองฉีดเข้าไป ซึ่งการฉีดนั้นเราแนะนำว่าให้เข้ามาปรึกษาเราที่เอเซียคลินิกก่อน เพราะการฉีดจะได้รับการฉีดจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่แนะนำให้ไปฉีดกับหมอกระเป๋าเด็ดขาด
การดูแลรักษาจากการผ่าตัดริมฝีปาก
1.ในช่วง 3 วันแรกควรนอนหมอนสูงเพื่อบรรเทาอาการปวด
2.ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ
3.บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดบ่อยๆ การบ้วนปากนั้นจะช่วยสมานแผลและเป็นการล้างแผลไปด้วยในตัว
4.ห้ามรับประทานอาหารรสจัด
5.เมื่อแผลแห้งสนิทให้ทำการนวดปาก โดยการใช้นิ้วคลึงเพื่อลดการตึงของแผล
6.ขยันทาลิปมันเพื่อให้ปากชุ่มชื่นตลอดเวลา
7.ช่วงเวลา 1 เดือนอย่าฉีกยิ้มบ่อยเพื่อกันแผลฉีก
8.หลีกเลี่ยงกิจกรรมกระทบกระเทือนทุกชนิดเป็นเวลา 2 อาทิตย์
Cr : http://women.kapook.com/view50053.html
http://www.asia-clinic.com