สวัสดีน้องๆทุกคนนะคะ เชื่อว่าน้องๆหลายคนคงอยากจะมีรูปร่างที่สวยงามได้สัดส่วน แต่มีเวลาออกำลังกายน้อยซะเหลือเกิน หรือบางคนที่ออกกำลังกายแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รูปร่างที่น่าพอใจสักที ดังนั้น “การดูดไขมัน” จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ จากบทความก่อนหน้าน้องๆคงรู้จักข้อมูลการดูดไขมันไปบ้างแล้ว วันนี้ทางทีมงาน Surgery Care มาแนะนำตัวอย่างเครื่องมือและเทคนิคในการดูดไขมันแบบต่างๆที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน มาให้น้องๆได้รู้จักกันค่ะ ก่อนอื่นมาเริ่มกันที่
1. Conventional liposuction – แบบดั้งเดิม
หลักการ อาศัยเทคนิค SAL ซึ่งคุณหมอจะสอดท่อกลวงยาว จากนั้นจะอาศัยแรงดูดสุญญากาศและแรงมือ เพื่อดูดไขมันออกมา ไม่มีการใช้เทคโนโลยีช่วย
ข้อดี ประหยัดเงิน
ข้อเสีย ใช้เวลานาน แผลใหญ่ ช้ำมาก อาจจะเสียเลือดมาก พักฟื้นนาน และหลังการทำผิวไม่เรียบเนียน
* SAL ย่อมาจาก Suction-assisted Liposuction เป็นเทคนิคการดูดไขมันโดยใช้ท่อธรรมดา เหมาะกับบริเวณเล็กๆ เช่น ใบหน้า แขน น่อง เป็นต้น
2. Power-assisted liposuction – แบบพาวเวอร์ เช่น PAL**
หลักการ อาศัยเทคนิค PAL ซึ่งคุณหมอจะสอดท่อกลวงยาวในการดูดไขมันเช่นกัน แต่ที่ปลายท่อจะมีการสั่น และเลื่อนเข้าออกช่วยในการดูดไขมัน ทำงานโดยใช้ปั๊มลมหรือมอเตอร์ไฟฟ้า เป็นเครื่องทุ่นแรงช่วยลดเวลาผ่าตัดและลดการเกิดคลื่นที่ผิวหนัง
ข้อดี ประหยัดเวลา เสียเลือดและบวมช้ำน้อยกว่าแบบดั้งเดิม
ข้อเสีย พักฟื้นนาน แพงกว่าแบบดั้งเดิม
** PAL, Power-assisted liposuction
ใช้หลักการเดียวกับ SAL แต่จะทำการดูดไขมันออกด้วยมอเตอร์ที่จะทำให้ง่ายต่อการแยกชั้นของไขมัน เพื่อแก้ปัญหาไขมันสร้างตัวในเวลาอันสั้น ใช้กับบริเวณหน้าท้อง หรือไขมันรอบเอว
3. Ultrasound-assisted liposuction – อัลตร้าซาวด์ หรือ VASER liposuction
เช่น VASER Lipo.
(เหมาะสำหรับดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง
รอบเอว สะโพก ต้นขา ต้นแขน น่อง และปีกหลัง)
Ultra-Z
(เหมาะสำหรับดูดไขมันบริเวณหน้าท้อง แขน หลัง สะโพก ต้นขา น่อง แก้ม คางสองชั้น)
หลักการ ปล่อยคลื่น Ultrasound ออกมาจากทั้งด้านบนและด้านข้างของหัวสัญญาณ เพื่อทำให้เกิดปฏิกิริยาความร้อนจนทำให้ทำให้ก้อนไขมันแตกตัวออกกลายเป็นของเหลว แล้วจะถูกดูดออกมา
ข้อดี แผลเล็ก บอบช้ำน้อย ระยะพักฟื้นสั้น ช่วยให้ผิวพรรณกระชับเร็วขึ้น
ข้อเสีย ราคาสูง ผิวอาจไหม้ได้ หลังทำผิวอาจเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอ
4. Laser-assisted liposuction – เลเซอร์ เช่น Accusculpt
หลักการ ใช้ความร้อนจากเลเซอร์สลายไขมัน โดยยิงแสงเลเซอร์ ***(ความยาวคลื่น1444 นาโนเมตร) ไปยังบริเวณที่ต้องการกำจัดไขมัน ผ่านทางสายไฟ (เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 0.6 มม.) เซลล์ไขมันจะถูกสลายและละลาย หลังจากนั้นคุณหมอจะทำการดูดไขมันที่ละลายนั้นออกมา
ข้อดี ดูดไขมันบริเวณใบหน้าและส่วนเกินได้ทั่วร่างกาย ได้แก่ หน้าท้อง รอบเอว สะโพก ต้นแขน ต้นขา น่อง บริเวณหลัง บริเวณแก้ม ใต้คาง ใต้ตา นอกจากนี้ยังสามารถลบร่องแก้ม และช่วยให้ผิวตึงกระชับ
ข้อเสีย ราคาสูง ผิวอาจจะไหม้ได้ และดูดไขมันได้น้อย
*** ความยาวคลื่นที่ใช้จะแตกต่างกันตามชนิดและยี่ห้อของเครื่องมือ
5. Radiofrequency-assisted liposuction, RF - การใช้คลื่นความถี่วิทยุ (Radio Frequency) เช่น Body Tite
หลักการ ใช้คลื่นความถี่วิทยุเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนสลายไขมันเป็นน้ำมัน (melt fat) แล้วถูกดูดออก อุณหภูมิที่ใช้ในการดูดไขมันสูงขึ้นไม่เกิน 45° C ซึ่งจะไม่ทำลายเนื้อเยื่อและเส้นประสาทรอบๆผิว นอกจากนี้ยังสามารถช่วยกระตุ้น Collagen ในชั้นใต้ผิว ทำให้ผิวบริเวณที่ทำการรักษายกกระชับ และเนียนเรียบตึงขึ้น เหมาะสำหรับดูดไขมันบริเวณต้นแขน ,ต้นขา ,หน้าท้อง ,สะโพก ,น่อง เป็นต้น การดูดไขมันด้วย Body Tite เห็นผลชัดเจน ไม่จำเป็นต้องทำซ้ำ และไม่ต้องพักฟื้นนาน
ข้อดี ระยะเวลาน้อยในการทำ แผลเล็ก บวมช้ำน้อย พักฟื้นสั้น ผิวเรียบกระชับไม่ทำให้เกิดเป็นพังผืด
ข้อเสีย ราคาสูง ผิวอาจจะไหม้ได้
6. Water-assisted liposuction - การฉีดน้ำ เช่น Body jet
หลักการ ใช้เทคนิคการพ่นน้ำในขณะที่กำลังดูดไขมัน ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อหลอดเลือด เส้นประสาท และเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ ทำให้ลดการเกิดความบวมช้ำของผิว และเสียเลือดในปริมาณน้อยมาก นอกจากนั้นวิธีนี้ทำให้ได้เซลล์ไขมันที่นำไปใช้เติมเต็มส่วนๆต่างได้อีกด้วย
ข้อดี ระยะเวลาน้อยในการทำ แผลเล็ก บวมช้ำน้อย พักฟื้นสั้น
ข้อเสีย ราคาสูง
น้องๆคงจะทำความรู้จักประเภทของเครื่องมือและเทคนิคในการดูดไขมันแบบต่างๆไปแล้วนะคะ การจะเลือกเครื่องมือในการดูดนั้นให้ดูจากจุดประสงค์ของเรา งบประมาณ ความปลอดภัย และการประเมินจากแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดน้องๆอย่าลืมนะคะว่า “การดูดไขมัน ไม่ใช่การกำจัดไขมันแบบถาวร ไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน แต่เป็นเพียงตัวช่วยในการปรับลดสัดส่วนเท่านั้นค่ะ” ถ้าอยากหายไว ฟื้นตัวเร็วขึ้นแนะนำทานเหล่งเอี๊ยงExtra และทา ARNICA GEL นะคะ เนื่องจากหลังจากดูดไขมันแล้วจะมีอาการบวมช้ำ และต้องใช่เวลาในการฟื้นตัวระยะเวลาหนึ่ง ตัวสมุนไพรนี้จะช่วยบรรเทาอาการบวมช้ำ ลดปวด ลดอักเสบ ฟื้นฟูร่างกาย และช่วยสมานแผลทำให้หายเร็วยิ่งขึ้นค่ะ สุดท้ายนี้พี่ๆขอลาไปก่อนนะคะ...bYe…
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.wonjinthailand.com/การผ่าตัดดูดไขมัน
http://oknation.nationtv.tv/blog/Samitivejhospital/2011/07/12/entry-1
https://webboard.campus-star.com/topic/581134
http://theerathornclinic.maxideahost.com/content/177--body-tite-vaser-water-assisted-liposuction
https://www.thairath.co.th/content/235108
http://www.aqua-cooler.com/extrachest-liposuction/process.html