สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกคน หลังจากที่ได้รู้จัก “Love Band” หรือ “Dolly Eyes” ไปในหัวข้อ “Love Band” เทรนด์ใหม่ของสาวเอเชีย ก่อนหน้านี้ไปแล้ว คงจะมีคำถามต่อว่าจะ “ผ่า” หรือ “ฉีด” ดีนะ? วันนี้ทางทีมงาน Surgery Care จะมาแนะนำรายละเอียดเพิ่มเติมกันค่ะ แต่ก่อนอื่นขออธิบายสำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก“Love Band” หรือ “Dolly Eyes” ว่ามันคืออะไรกันแน่
“Love Band” หรือ “Dolly Eyes” เป็นการทำให้ขอบตาล่างให้หนาขึ้น ดูบวมๆฉ่ำๆเยิ้มๆ ซึ่งจะช่วยให้ดวงตาดูอวบอิ่ม สดใส และดูหวานฉ่ำสวยตลอดเวลา ด้วยการใช้ฝีมือคุณหมอเข้ามาช่วยและวิธีการทำศัลยกรรมนี้ มี 2 วิธีการคือ
1.วิธีการการผ่าตัด
การผ่าตัดเพื่อทำให้เนื้อเยื่อส่วนที่ติดกับขนตาล่างนูนเด่นขึ้นมาเล็กน้อย โดยใช้เนื้อเยื่อตัวเองหรือใช้เนื้อเยื่อสังเคราะห์ก็ได้ จะมีแผลยาวประมาณ 2-4 มม.บริเวณหัวและหางตา
มีขั้นตอนดังนี้
Ø ปรึกษากันรายละเอียดกับคุณหมอก่อน
Ø คุณหมอจะวางยาชา
Ø ทำการผ่าตัด โดยจะทำรูเล็กในบริเวณใต้ตา (บริเวณหัวและหางตา) เพื่อใส่เนื้อเยื่อตัวเองหรือใช้เนื้อเยื่อสังเคราะห์เข้าไป จากนั้นเย็บปิดแผล ซึ่งระยะเวลาที่ใช้ในผ่าตัดประมาณ 30 นาที
Ø กลับบ้านได้
Ø 6-7 วันต่อมา คุณหมอจะนัดมาตัดไหม
วิธีนี้แผลอาจจะหายช้าสักนิดนะคะน้องๆ แต่วิธีการผ่าตัดนี้สามารถตกแต่งรูปร่างได้ตามต้องการ และอยู่อย่างถาวรแน่นอนค่ะ เรามารู้จักอีกวิธีกันเลยดีกว่านั้นก็คือ
2.วิธีการฉีดเติมเต็ม
เป็นการฉีดไขมันหรือฟิลเลอร์เข้าไปเติมบริเวณใต้ขอบตาล่าง ทำให้เนื้อเยื่อส่วนที่ติดกับขนตาล่างนูนเด่นขึ้นมา วิธีการฉีดนี้จะใช้เวลาฟักฟื้นเพียงเล็กน้อย
มีขั้นตอนดังนี้
Ø คุณหมออาจจะทายาชา (หรือไม่ทาก็ได้)
Ø คุณหมอจะทำการวิเคราะห์ แล้วทำการฉีดไขมันหรือฟิลเลอร์เข้าไปเติมบริเวณใกล้ๆหัวตาล่าง กลางตาล่าง และหางตาล่าง
เพียงแค่นี้ก็จะมีตาเยิ้มๆฉ่ำๆกันแล้วค่ะ ในการฉีดไขมันหรือฟิลเลอร์นี้กำหนดรูปร่างได้ยากมากกว่าการผ่าตัด และหากน้องๆใช้ไขมัน(ตัวเอง)ฉีดจะมีโอกาสต่อต้านน้อยกว่าการใช้ฟิลเลอร์เช่นกันค่ะ โดยส่วนใหญ่หากน้องๆใช้วิธีการนี้ แน่นนอนว่าต่อมาจะต้องมีการสลายตัวทั้งของไขมันหรือฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป จึงถือได้ว่าวิธีการนี้เป็นการทำศัลยกรรมแบบชั่วคราว น้องๆอาจจะทำการฉีดเพิ่มเติมได้ แต่ก็มีสารบางประเภทที่ไม่สลายตัว(อันนี้...ไม่แนะนำให้ฉีดค่ะ)
ตารางเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียของการศัลยกรรม “Love Band” หรือ “Dolly Eyes” วิธีการต่างๆ |
||
|
ข้อดี |
ข้อเสีย |
1. การผ่าตัด |
§ สามารถตกแต่งรูปร่างได้ตามต้องการ |
§ เป็นการเปลี่ยนแปลงถาวร § มีรอยแผลผ่าตัด § แผลหายช้า § อาศัยคุณหมอที่มีประสบการณ์และความชำนาญ |
2. ฉีดเติมเต็ม |
§ ไม่มีรอยแผล § ใช้เวลาฟักฟื้นเพียงเล็กน้อย § สารที่จะใช้ฉีดมีให้เลือกมาก เช่น การใช้ไขมันตัวเองมาเติมเต็มผิว (Fat Transfer) ,คอลลาเจนจากสัตว์ (Bovine collagen) ,ไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic acid) เป็นต้น § หากยุบลงสามารถฉีดเพิ่มเติมได้ |
§ เป็นการเปลี่ยนแปลงชั่วคราว § กำหนดรูปร่างได้ยากกว่า § อาจก่อให้เกิดการแพ้ระคายเคืองได้ในสารบางชนิด § หากเกิดความผิดปกติจะต้องทำการผ่าตัดเพื่อแก้ไข § อาศัยคุณหมอที่มีประสบการณ์และความชำนาญ |
จากข้อมูลด้านบน ทั้งสองวิธีล้วนต้องอาศัยคุณหมอที่มีประสบการณ์และความชำนาญในการทำ ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับน้องๆแล้วค่ะว่า “อยากจะทำมันถาวร” หรือว่า “จะลองเทสฉีดดูก่อน”
หลังจากที่ได้รู้จักวิธีการเพิ่มความหวานฉ่ำให้ดวงตา ก็อย่าลืมตัวช่วยดีดีอย่างยาสมุนไพรหยุนหนาน ไป่เหยา (Yunnan Paiyao)ที่มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการปวดและลดการอักเสบของแผลผ่าตัดนะคะ สุดท้ายนี้ไม่ว่าน้องๆจะเลือกวิธีใด พี่ๆทีมงาน Surgery Care ก็รักและเป็นห่วงน้องนะคะ...กลัวปัญหาบวมช้ำจากศัลยกรรมปรึกษาได้ค่ะ...
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.vplastsurgery.com/single-post/2016/08/16/
http://www.mycosmeticbeauty.com/
http://grandpsthai.blogspot.com/2015/05/grand-plastic-surgery_25.html